มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น (มภช.)
มูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ได้จัดตั้ง “มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหน่วยงานจัดการศึกษาสำหรับผู้นำชุมชนและอาสาสมัครทางสังคม โดยการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีเจตนารมณ์เช่นเดียวกันนี้
“มหาวิชชาลัย” เป็นคำที่มาจากพระชาดก “พระมหาชนก” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ได้ทรงแปลจากภาษาบาลี พระองค์ทรงใช้คำว่า “ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย” ซึ่งในพระชาดกดังกล่าว พระมหาชนกทรงได้รับคำแนะนำให้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้การศึกษาด้านสัมมาชีพแก่ประชาชน
มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้เพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการสังคมอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ โดยการจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เล็ก ๆ ในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ในรูปแบบของ “วิชชาลัย” เพื่อให้ผู้นำชุมชนและอาสาสมัครทางสังคม ได้เข้ารับการศึกษาอย่างทั่วถึง และไม่ต้องเดินทางไปยัง “ส่วนกลาง” อีกทั้งเพื่อให้การศึกษา เป็นการศึกษาเพื่อชุมชนท้องถิ่น และเป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมหาวิชชาลัย ได้ริเริ่มโครงการโดยไม่ได้มุ่งหวังผลกำไร มหาวิชชาลัยไม่มีงบประมาณและกองทุนใดๆให้การสนับสนุน แต่มหาวิชชาลัยมีความเชื่อมั่นว่า ทุนทางสังคมของสังคมไทย ที่ได้รับการสั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน และขบวนการทางการพัฒนาสังคมที่ก่อรูปขึ้นโดยองค์กรพัฒนาเอกชนต่าง ๆ, โดยโครงการ LDAP, กองทุน SIF, สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บริษัทเอกชน และองค์กรภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นับเป็นทุนทางสังคมที่มีพลัง สามารถที่จะเชื่อมพลังของทุนทางสังคมเหล่านี้ มาสู่การสร้างสรรค์และพัฒนาภูมิปัญญาให้เกิดกับผู้นำชุมชนและอาสาสมัครทางสังคม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนฐานราก โดยพื้นฐานความเชื่อว่า ความเข้มแข็งที่แท้และยั่งยืนนั้น ต้องเป็นความเข้มแข็งทางภูมิปัญญา เพราะคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา และการพัฒนาคนนั้น ก็คือการยกระดับทางภูมิปัญญานั้นเอง
จากหลักคิดดังกล่าวข้างต้น มหาวิชชาลัย จึงได้นำเสนอ การจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยการใช้ทุนทางสังคม คือการรวมตัวกันของกลุ่มผู้มิจิตอาสา ทั้งผู้เรียน ผู้สอน และผู้สนับสนุน ในรูปแบบของการเป็น “วิชชาลัย”
มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น มิได้เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา จึงไม่สามารถจะเปิดทำการเรียนการสอนในระดับปริญญาหรือระดับอุดมศึกษา ตามรูปแบบของกระทรวงศึกษาธิการ แต่มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น เป็นองค์กรหนึ่งภายใต้โครงสร้างของมูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา โดยเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาผู้นำชุมชนและอาสาสมัครทางสังคม ให้มีศักยภาพในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเอง เพื่อนำไปสู่ความเป็นชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง และการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น ได้เปิดการฝึกอบรมผู้นำชุมชนและอาสาสมัครทางสังคม ในหลักสูตร ผู้ประกอบการสังคม (Social Entrepreneur) ซึ่งหลักสูตรนี้ เป็นหลักสูตรการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่กำลังจะเปิดทำการเรียนการสอนของสถาบันอาศรมศิลป์ อย่างเป็นทางการในปีการศึกษาแรกของปีพุทธศักราช 2555 ซึ่งปัจจุบัน (เดือนธันวาคม 2554) หลักสูตรนี้ อยู่ระหว่างการเสนอขอการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยสภาสถาบันได้อนุมัติหลักสูตรแล้ว เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2554
เมื่อสภาสถาบันอนุมัติหลักสูตรแล้ว สถาบันก็จะสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ และอนุมัติปริญญาได้ เพียงแต่ต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานการอุดมศึกษา(สกอ.)แล้ว จึงจะส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ตีค่าเงินเดือน สำหรับผู้ที่ประสงค์จะใช้วุฒิการศึกษาเพื่อการไปสมัครงานในภาคราชการ
มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานฝึกอบรมผู้นำชุมชนและอาสาสมัครทางสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่สนใจจะสมัครเข้าเป็นนักศึกษา ตามหลักสูตรผู้ประกอบการสังคมของสถาบันสถาบันอาศรมศิลป์ โดยที่ผู้เข้าอบรมที่ประสงค์จะรับปริญญาบัตรในอนาคต จะต้องสมัครเข้าเป็นนักศึกษาของสถาบันอาศรมศิลป์ และเทียบโอนรายวิชาที่เรียนผ่านแล้วกับสถาบันต่อไป
การดำเนินการจัดการเรียนรู้ของมหาวิชชาลัย เป็นความประสงค์ที่จะให้เป็น “ทางเลือก” ของการจัดการศึกษา ที่จะให้พ้นจากกรอบของกระทรวงศึกษาธิการ และทั้งยังจะเป็นการนำร่องของการปฏิรูปการศึกษาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งกำลังจะเข้าไปสู่การเป็นชุมชนไร้พรมแดน ในการเปิดเสรีของประเทศในกลุ่มอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 นี้
เจตนารมณ์ของมหาวิชชาลัย
มุ่งการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้นำชุมชน และอาสาสมัครทางสังคม ที่เป็นรากฐานของชุมชนทั้งประเทศ โดยเชื่อว่าชุมชนจะเข้มแข็ง และจัดการตนเองได้นั้น ต้องมาจากผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง และความเข้มแข็งของผู้นำ ต้องมาจากความเข้มแข็งทางปัญญา กล่าวได้ว่ามุ่งให้ผู้สำเร็จการศึกษา “มีรายได้จากสัมมาชีพที่เกื้อกูลสังคม และมีจิตอาสา”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น